โรงเรียนนายร้อยตำรวจ Kick off แอพพลิเคชั่น ‘3B-JOB’
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้มีการจัดประชุมเผยแพร่ผลการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนอุดหนุนการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ดำเนินโครงการ “การออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นสื่อกลางการสร้างโอกาสทางอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชน” ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนงานวิจัย นวัตกรรมยุติธรรมท้าทายไทยเพื่อการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำและส่งเสริมโอกาสการดำเนินชีวิตของเด็กและเยาวชนที่เคยกระทำความผิด โดยมีผู้ร่วมเข้าการประชุมกว่า 100 คน จากเครือข่ายผู้ประกอบการ และเด็กและเยาวชน
ผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ มหาเจริญ อาจารย์ (สบ 4) คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า โครงการครั้งนี้ มุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นที่ใช้เป็นสื่อกลางการสร้างโอกาสทางอาชีพสำหรับเด็กและเยาวชนในชื่อ “3B-JOB” (Build-Back-Better for Youth Job) เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อกลางระหว่างผู้ประกอบการ นายจ้าง และเด็กและเยาวชนที่มีความต้องการมีงานทำ ภายใต้แนวคิด “เด็กและเยาวชนมีงานทำตรงกับความสามารถของตนเอง ผู้ประกอบการ นายจ้าง ได้ผู้ร่วมงานหรือตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับองค์กร” โดยสามารถเข้าระบบและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น 3B-JOB ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.3b-job.com ซึ่งรองรับการใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ IOS โดยใช้เวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นมากว่า 1 ปี
ผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ กล่าวต่อว่า 3B-JOB ได้สร้างอาชีพแก่เด็กและเยาวชนที่เคยก้าวพลาด โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพ ด้วยวิธี Confusion Matrix พบว่า มีความแม่นยำถึง 99.53% และการทดลองใช้จากผู้ใช้งาน ทั้งกลุ่มสถานประกอบการและกลุ่มเด็กและเยาวชน พบว่า มีความพึงพอใจมากถึง 88.03% ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและการไม่ตีตรา ผู้ที่เคยก้าวพลาด พร้อมทั้งมอบโอกาสทางอาชีพและร่วมกันสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ ให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางอาชีพ มีรายได้ และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้น โดย รศ.ดร.สาโรช พูลเทพ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และออกแบบระบบสารสนเทศ โดยพร้อมที่จะเปิดใช้งานในเดือนพฤษภาคม 2566 นี้
ผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ กล่าวต่อไปว่า แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่น 3B-JOB เป็นแอพพลิเคชั่นที่มีความน่าสนใจ ง่ายต่อการใช้งาน และสะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูล โดยแบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มเครือข่ายส่งเสริมอาชีพ ผู้ประกอบการ หรือนายจ้างที่มีความต้องการแรงงานหรือผู้ร่วมงานที่เหมาะสมกับแนวทางการดำเนินงานขององค์กร โดยสามารถประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงาน หรือลงประกาศรับสมัครงานได้ รวมถึงการยื่นข้อเสนอตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้เด็กและเยาวชนได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างได้บุคลากรที่มีความสามารถไปทำงานตามความต้องการขององค์กร
2.กลุ่มเด็กและเยาวชนที่ต้องการมีงานทำ สามารถสร้างโปรไฟล์ ลงประวัติส่วนตัว และนำเสนอศักยภาพและทักษะในด้านต่างๆ ที่ตรงตามความต้องการของตนเองและตลาดแรงงาน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างได้พิจารณาคัดเลือกเข้าทำงาน ทั้งยังมีฟังก์ชั่นการแจ้งเตือน ระบบจับคู่งานที่ค้นหางานได้ตรงตามความสามารถของเด็กและเยาวชนได้อย่างรวดเร็ว มีระบบการให้บริการข้อมูลในรูปแบบของ Chat Bot สำหรับตอบข้อสงสัยและให้ข้อมูลได้ในทันที
“โดยนอกจากนี้ แอพพลิเคชั่น 3B-JOB ยังมีการพัฒนา Community Platform เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างและเด็กและเยาวชนใช้เป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนทักษะหรือความต้องการที่สอดคล้องกับบริบทองค์กรและตลาดแรงงาน โดยแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชั่นจะมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ข่าวสาร บทความ และสื่อการเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวกลางหรือช่องทางที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ และการเพิ่มทักษะของเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการได้รับทราบเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดให้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเกิดความมุ่งมั่นในการประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้ให้สามารถพึ่งพิงตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ทักษะสังคมและทักษะอาชีพให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ทำให้ชุมชนเกิดความสงบสุขและปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรม และเกิดการสร้างรากฐานความมั่นคงของครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันหลักของสังคม” ผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ กล่าว
ด้าน ศ.พลตำรวจตรีหญิง ดร.พัชรา สินลอยมา ในฐานะผู้บริหารจัดการโครงการวิจัย กล่าวว่า ความคาดหวังในผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้งานแอพพลิเคชั่น 3B-JOB คือ เด็กมีงานทำ คดีลดลง โดยมีแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลางในการสร้างโอกาสทางเลือกอาชีพตามที่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และมีแหล่งการประกอบอาชีพการเปิดกว้างสำหรับเด็กและเยาวชนที่เคยก้าวพลาดอย่างเท่าเทียม
โดยที่ผู้ประกอบการหรือนายจ้างให้ความสำคัญกับศักยภาพและความสามารถ ทั้งเชิง hard skill และ soft skill ของเด็กและเยาวชน มากกว่าการมองข้อจำกัดด้านภูมิหลังและการตีตราว่าเป็นผู้เคยก้าวพลาดมาก่อน นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เด็กและเยาวชนผู้เคยก้าวพลาดมีโอกาสในการประกอบอาชีพ ทำให้มีรายได้ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้โดยปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ rbrlodge.com
